เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ตรวจค้นสถาบัน อุเทนถวาย หลังมี คลิปยกพวกตีกัน 100 ชีวิต หน้าสนามศุภฯ เบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายในสถาบัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวันนำกำลังฝ่ายป้องกันปราบปราม เข้าตรวจค้นสถาบันอุเทนถวาย หลังจากที่ปรากฎคลิปยกพวกตีกันจากนักศึกษาจากสองสถาบันเกือบ 100 คน ที่ลานกีฬาหน้าอาคารนิมิบุตร สนามศุภชลาศัย จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย
จากการตรวจสอบและปิดล้อม ตามมาตรการเชิงรุกในการป้องกันปราบปรามเหตุ หรือตรวจยึดสิ่งของผิดกฎหมาย ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายและการกระทำผิดภายในสถาบัน
ขณะที่ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ และคณาจารย์จาก สถาบันวิทยาลัยเทคโนโลยีปทุมวัน และ สถาบันเทคโนโลนีราชมงคลตะวันออกวิทยาเขตอุเทนถวาย ได้ร่วมกันหารือถึงแนวทางป้องกันเหตุและการติดตามหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รองจเรตำรวจแห่งชาติ (ช่วยเหลืองาน ปป.) เปิดเผยว่าเมื่อเวลา 17.40 น. วันที่ 25 สิงหาคม ขณะตำรวจ สน.ปทุมวัน กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณป้ายรถประจำทางหน้าอาคารนิมิบุตร ได้มีกลุ่มนักศึกษาเทคโนปทุมวัน ประมาณ 60 คน วิ่งกรูออกมาจากสถาบัน และมุ่งหน้ามายังลานกีฬาหน้าอาคารมินิบุตร มาเจอกับนักศึกษาอุเทนถวาย ประมาณ 50 คน ที่วิ่งลงมาจากลานใบบัว สกายวอล์กปทุมวัน เมื่อทั้งสองฝ่ายมาเจอกันก็ได้ตะโกนด่าทอและท้าทาย ก่อนนักศึกษาจากสองสถาบันจะยกพวกตีกันในที่สุด
ทั้งนี้ การให้ความช่วยเหลือกลับไทยไม่สามารถดำเนินการได้ทันทีหรือในเวลาอันรวดเร็ว เนื่องจากเจ้าหน้าที่กัมพูชามีจำนวนจำกัด และจะต้องเป็นไปตามกระบวนการของทางการกัมพูชา เมื่อได้รับการช่วยเหลือแล้ว เหยื่อจะต้องพักรอในสถานกักกันเพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวนและรอการเนรเทศ อาจต้องชำระค่าปรับหรือถูกดำเนินคดีตามกฎหมายกัมพูชา และเมื่อเดินทางกลับเข้าไทยอาจต้องชำระค่าปรับหรือถูกดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องของไทยด้วย
สำหรับการดำเนินคดีทางวินัย ส.ต.ท.หญิง นั้น เบื้องต้นทางกำลังถูกสอบสวนวินัยร้ายแรง และหากพบว่าผิดจริงจะถูกดำเนินคดีเป็นสองเท่า เพราะ ถูกดำเนินคดีในระหว่างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ อย่างไรก็ดีทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ให้ออกจากราชการไว้ก่อน
‘ทนายตั้ม’ เผยเหยื่อ หลานอดีตรัฐมนตรี รับคำท้าสาบาน
ทนายตั้ม เผยคำตอบของเหยื่อ หลานอดีตรัฐมนตรี หลังถูกท้าให้สาบานว่าพูดความจริง ทนายตั้มบอก รับคำท้าสาบาน เลือกวันเวลาสถานที่ได้เลย
ทนายตั้ม หรือ ษิทรา เบี้ยบังเกิด โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กโต้ตอบกรณีอาของหลานอดีต รมต ล่วงละเมิดดาราสาว ที่ได้ออกมาท้าให้เหยื่อออกมาสาบานวัดพระแก้ว เพราะมั่นใจว่าตัวหลานไม่ได้กระทำผิด ทางเหยื่อยืนยันรับคำท้า
ทนายตั้ม ระบุว่า “ได้ดูข่าวอาของผู้ต้องหาคดีข่มขืนท้าน้องผู้เสียหายสาบานเพราะมั่นใจในหลานชายว่าที่นายกรัฐมนตรี ว่าไม่ได้กระทำผิด น้องผู้เสียหายรับคำท้านะครับ นัดเวลา สถานที่มาได้เลย”
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ อาของหลานรัฐมนตรีท่านนึงได้ให้สัมภาษณ์มั่นใจในความบริสุทธิ์ของหลานชายว่า ในฐานะพุทธศาสนิกชน ก็ขอท้าฝ่ายหญิงไปพิสูจน์ความจริงด้วยการสาบานที่วัดพระแก้ว ทั้งนี้ ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ตนฟังจากหลาน
เขาบอกว่าเป็นเรื่องของต่างคนต่างไม่มีสติ และไปด้วยกันด้วยความสมัครใจ ตนจึงอยากพิสูจน์ทางคดีและอยากท้าน้องฝ่ายหญิงดื่มน้ำสาบาน ไม่รู้เขาจะกล้าหรือเปล่า ถ้าหลานตนผิดก็ต้องรับผิด ฝ่ายหญิงผิดก็ว่าไปตามผิด เราจะไม่ใส่ความใคร ที่ผ่านมาหลานเป็นคนดี ไม่มีประวัติด่างพร้อย
ขอให้ระวังและอย่าหลงเชื่อประกาศรับสมัครงานตำแหน่งต่างๆ อาทิ แอดมินออนไลน์ เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ เจ้าหน้าที่การตลาด โดยไม่ต้องมีประสบการณ์ทำงาน รายได้ดีตั้งแต่ 25,000-50,000 บาท/เดือน พร้อมค่าล่วงเวลา โดยนายจ้างจะออกค่าใช้จ่ายในการเดินทาง พร้อมที่พัก อาหาร สวัสดิการต่าง ๆ และจะดำเนินการเรื่องวีซ่าให้เมื่อเดินทางถึงฟิลิปปินส์ เมื่อเหยื่อเดินทางถึงฟิลิปปินส์แล้ว จะถูกบังคับให้เซ็นสัญญาทำงานที่ไม่เป็นธรรม ถูกยึดหนังสือเดินทาง ให้ทำงานหนัก ไม่ได้รับค่าตอบแทนตามที่ตกลงไว้ และถูกบังคับให้หาลูกค้ามาเล่นพนันออนไลน์ หรือหลอกให้ลงทุน รวมทั้งชักชวนคนที่รู้จักมาร่วมทำงานเป็นเครือข่าย
หากทำงานไม่ได้ตามเป้าหมายหรือไม่ยินยอมทำงาน จะถูกกักขัง ขู่ทำร้าย หรือส่งขายต่อให้นายจ้างรายอื่น รวมทั้งถูกบังคับให้ต้องนำเงินจำนวนหลักแสนบาทมาไถ่ตัวเป็นค่าผิดสัญญาการทำงานหรือค่าใช้จ่ายในการพาเหยื่อเดินทางมาฟิลิปปินส์
ทั้งนี้ การให้ความช่วยเหลือกลับไทยไม่สามารถดำเนินการได้ในเวลาอันรวดเร็ว เนื่องจากจะต้องเป็นไปตามกระบวนการของทางการฟิลิปปินส์ เมื่อได้รับการช่วยเหลือแล้ว เหยื่อจะยังไม่สามารถกลับไทยได้เนื่องจากตำรวจต้องการสอบสวนในฐานะเหยื่อหรือพยานคดีการค้ามนุษย์ และอาจต้องเข้ากระบวนการศาลของฟิลิปปินส์
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป