เกษตรกรเลี้ยงหมู วอนรัฐยื่นมือช่วยเหลือ กวาดล้าง ‘ขบวนการลักลอบนำเข้าหมู’

เกษตรกรเลี้ยงหมู วอนรัฐยื่นมือช่วยเหลือ กวาดล้าง ‘ขบวนการลักลอบนำเข้าหมู’

สมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือ วอนรัฐบาลให้เข้าช่วยเหลือในการกวาดล้าง ขบวนการลักลอบนำเข้าหมู หวั่นนำโรคเข้าไทยซ้ำเติมวิกฤติ นายสุนทราภรณ์ สิงห์รีวงศ์ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังคงมี “ขบวนการนำเข้าเนื้อหมู” กระจายในทุกพื้นที่ของประเทศ โดยเฉพาะแถบภาคเหนือ ภาคอีสาน ในจังหวัดติดต่อกับชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน คนกลุ่มนี้กำลังแสวงหาผลประโยชน์ บนความทุกข์ของเกษตรกรไทย โดยไม่คิดถึงผลกระทบที่จะตามมา เพราะเนื้อหมูและชิ้นส่วนผิดกฎหมายที่นำเข้ามาจากหลายประเทศ ทั้งสหรัฐอเมริกา แคนาดา เยอรมัน บราซิล อิตาลี เบลเยียม และเกาหลี ที่สำแดงเท็จว่าเป็นสินค้าประเภทอาหารทะเล หรือวัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง

ทั้งๆที่เนื้อหมูลักลอบนี้ไม่ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบโรคสัตว์ ตาม พ.ร.บ.

โรคระบาดสัตว์ของกรมปศุสัตว์ ซ้ำยังไม่มีเอกสารใบอนุญาตนำเข้า และหลักฐานแสดงที่มาของแหล่งกำเนิด ซึ่งหากซากสัตว์เป็นโรคระบาด หรือพาหะของโรคระบาด ย่อมมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคระบาดสัตว์ เป็นการซ้ำเติมวิกฤตที่เกษตรกรกำลังประสบอยู่ ที่สำคัญจากหลายประเทศอนุญาตให้มีการใช้สารเร่งเนื้อแดงในกระบวนการเลี้ยงสัตว์ได้

ในขณะที่ประเทศไทยไม่อนุญาตให้มีการใช้สารเร่งเนื้อแดงในกระบวนการเลี้ยงสัตว์อย่างเด็ดขาด มาตั้งแต่พ.ศ.2545 ตามประกาศของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และปี พ.ศ.2546 ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข หมูลับลอบที่นำมาจำหน่ายปะปนกับหมูไทยทั่วประเทศ นอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว ยังถือเป็นการบ่อนทำลายความปลอดภัยทางอาหารของประชาชนไทยอย่างร้ายกาจ

“ปัญหา ASF ในหมู ที่พบเมื่อปลายปี 2564 และยังคงพบในบางพื้นที่ของประเทศ ทำให้เกษตรกรต้องปรับวิธีการเลี้ยงและการจัดการป้องกันโรคอย่างเข้มงวดขึ้นกว่าเดิม เพื่อไม่ให้โรคนี้เข้ามาทำอันตรายกับหมูในฟาร์มได้ แต่ขบวนการลักลอบนำเนื้อสุกรและชิ้นส่วนผิดกฎหมาย กำลังบ่อนทำลายระบบการป้องกันโรคของไทย เป็นคลื่นใต้น้ำนำพาทั้งโรคหมูและสารอันตรายเข้ามาทำลายทั้งเกษตรกรไทยจากความเสี่ยงต่อโรคระบาด และการถูกบิดเบือนตลาดจากปริมาณหมูที่นำเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย

ขณะเดียวกันคนไทยยังต้องตายผ่อนส่งจากสารอันตรายที่แฝงมากับเนื้อหมูเถื่อน ทำให้รัฐต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลอาการเจ็บป่วยจากการได้รับสารดังกล่าว และยังมีความเสียหายจากการไม่เสียภาษีตามระบบทำให้ภาครัฐต้องสูญเสียรายได้ ถือเป็นผลกระทบทางเศรษฐกิจอันใหญ่หลวง เกษตรกรขอเรียกร้องให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมศุลกากร กรมปศุสัตว์ เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เร่งตรวจตราและกวาดล้างขบวนการนี้ไม่ให้มีการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูมาทำลายคนไทยเด็ดขาด” นายสุนทราภรณ์ กล่าวและว่า

เกษตรกรขอยืนหยัดคัดค้านการนำเข้าเนื้อหมูจากต่างประเทศ และขอให้กลไกตลาดเป็นแนวทางในการปรับสมดุลราคาสินค้า ดังที่ประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหามาโดยตลอด เพื่อให้เกษตรกรยังสามารถบริหารจัดการการผลิตและการตลาดสำหรับผู้บริโภคได้อย่างเหมาะสม ไม่ถูกบิดเบือนกลไกราคา และยังเป็นแรงจูงใจสำคัญสำหรับพี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงที่กำลังตัดสินใจกลับเข้าสู่ระบบ หลังจากต้องตัดสินใจหยุดพักการเลี้ยงไปเพื่อรอดูสถานการณ์การผลิตและโรคในสุกรให้คลี่คลายก่อนกลับมาเลี้ยงหมู ที่จะช่วยเพิ่มซัพพลายหมูในอุตสาหกรรมให้เพียงพอกับการบริโภคอย่างยั่งยืน

เตรียมตัว! กรมอุตุฯ เผย ฝนตกหนัก 20-23 พ.ค. นี้

กรมอุตุ ร่อนประกาศเตือนประชาชน ฝนตกหนัก 20-23 พ.ค. นี้ ขณะที่กรุงเทพมีฝนประมาณร้อยละ 60 ของพื้นที่ คาดตกช่วงบ่ายถึงค่ำ ยังเป็นที่ต้องจับตามองสำหรับสภาพอากาศในช่วงนี้ หลังจากที่ในช่วงวันที่ 17 พ.ค. ถึง 18 พ.ค. ที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกหนักนาน 10 ชั่วโมง จนทำให้เกิดน้ำท่วมกรุงเทพและในหลายพื้นที่

โดยล่าสุด กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศฉบับที่ 2 เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 20-23 พ.ค.นี้ โดยมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงปกคลุมประเทศไทย ทะเลอันดามัน และอ่าวไทย ประกอบกับจะมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณอ่าวมะตะบันเคลื่อนผ่านประเทศเมียนมา เข้าสู่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน

ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมแรง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ในบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งภาคใต้ตอนบน

พยากรณ์อากาศตั้งแต่เวลา 06.00 น.วันนี้ ถึงเวลา 06.00 น.วันพรุ่งนี้

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

• ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง สุโขทัย กำแพงเพชร และตาก อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป